ในปัจจุบัน ที่ใครหลาย ๆ คนต้องการความสดใหม่ในด้านข่าวสารและทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ ทำให้เว็บไซต์เข้ามามีบทบาทและเป็นสื่อที่มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน เว็บไซต์จึงกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญ เพราะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ข่าว การโฆษณาสื่อต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์
ด้วยข้อดีที่กล่าวมา ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจ หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปต่างก็มีความต้องการจัดทำเว็บไซต์ขึ้น เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารไปสู่กลุ่มเป้าหมาย เช่น การโฆษณาขายสินค้าและบริการในเชิงธุรกิจ การใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารขององค์กร หรือแม้กระทั่งตั้งกระทู้บทความเพื่อถาม-ตอบ แลกเปลี่ยนความรู้
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ไม่ควรละเลยในเรื่องของเว็บไซต์ ซึ่งเว็บไซต์นั้นก็มีอยู่หลายประเภทและหลากหลายวัตถุประสงค์ ดังนั้น ควรพิจารณาก่อนว่าเว็บไซต์ของท่านนั้นทำขึ้นเพื่ออะไร และกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร จะช่วยให้ท่านวางแผนการออกแบบเว็บไซต์ได้เหมาะสมและประสบการณ์ในการใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
ในบทความนี้ ทาง Theluckyname จะพาไปทำความรู้เกี่ยวกับประเภทเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มักพบบ่อยในปัจจุบัน เพื่อให้ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของท่านได้
E-Commerce เป็นเว็บไซต์ที่มีวัตถุประสงค์และส่งเสริมเกี่ยวกับการทำธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ โดยจะเห็นข้อมูลรายละเอียดสินค้า โปรโมชัน มีระบบในการสั่งซื้อสินค้าแบบเต็มรูปแบบ ทั้งการชำระเงินในรูปแบบออนไลน์ มีตะกร้าสินค้า มีการบอกถึงสถานะของสินค้า และยังเชื่อมต่อระบบการขนส่งสินค้าได้อีกด้วย ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน การทำธุรกิจในลักษณะนี้จะถูกเรียนกว่า E-Commerce หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตัวอย่างเช่น Nike, Adidas, Naiin เป็นต้น
เว็บไซต์ประเภท E-Commerce นั้นจะมีความพิเศษในด้านของใช้งานที่ง่าย ไม่ยุ่งยาก มีความปลอดภัย มีระบบการยืนยันการซื้อสินค้า มีทีมบริการลูกค้า (Customer Service) และมีการเปิดให้มีช่องทางการชำระเงินหลายรูปแบบ เป็นต้น
หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Corporate Website ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เอาไว้โปรโมทธุรกิจ ถือเป็นหน้าบ้านบนโลกออนไลน์ของธุรกิจ ลูกค้า หรือผู้ที่สนใจอยากรู้ว่าท่านคือใคร ขายสินค้า หรือบริการอะไร ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา โครงสร้างองค์กร ทีมงาน สินค้า บริการ กิจกรรม ข่าวสาร บทความที่น่าสนใจ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ (แต่ไม่ได้ขายสินค้าแบบ E-Commerce Website) โดยประเภทเว็บไซต์ในรูปแบบของ Business Website ควรอ่านแล้วเข้าใจง่าย มีการแบ่งสัดส่วนในส่วนของเนื้อหา รูปภาพ และอื่น ๆ ให้สวยงาม ใช้งานง่าย มีที่อยู่ และช่องทางในการติดต่อสอบถามอย่างครบถ้วน เช่น SCG, PTT และธุรกิจอื่น ๆ เป็นต้น
เว็บไซต์ประเภทนี้มักนำเสนอบทความที่เป็นความรู้ด้านต่าง ๆ โดยเป็นบทความที่เขียนขึ้นมาเอง เพื่อสื่อสารความรู้สึกนึกคิด มุมมอง ประสบการณ์ ความรู้ และข่าวสารในเรื่องที่ผู้เขียนท่านหนึ่ง (Blogger) สนใจโดยเฉพาะ โดยมักจะเป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นการเขียนจากสิ่งที่เจ้าของเว็บไซต์ให้ความสนใจ เช่น การท่องเที่ยว อาหารที่ชื่นชอบ ร้านกาแฟน่าแวะ เป็นต้น
โดยส่วนใหญ่ Blog Website จะเน้นไปที่เนื้อหาที่เป็นตัวหนังสือผสมผสานกับรูปภาพ ให้อ่านง่ายสบายตา และอาจมีการเพิ่มในส่วนของการบริการ เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมทราบว่ามีบริการที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เขียนบนเว็บไซต์นั้น ๆ เช่น เว็บไซต์ Content Shifu ที่เป็นเว็บไซต์ขายคอร์สเรียน Digital Marketing จึงมีการควบคู่ร่วมกับลงบทความที่เกี่ยวข้องกับคอร์สเรียน ซึ่งยังเป็นประโยชน์ในการทำ SEO (Search Engine Optimization) ที่ส่งผลให้ติดอันดับการค้นหาต้น ๆ บนช่องทางการค้นหาที่มีความนิยมอย่าง Google อีกด้วย
เว็บไซต์ส่วนบุคคล เป็นประเภทเว็บไซต์ที่ภายในนั้นจะมีลักษณะการใส่ข้อมูลเหมือนการจดบันทึก เอาไว้ถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเอง รวมถึงการแบ่งปันความคิด ความชอบ ความสนใจ การสร้างแรงบันดาลใจ และยังสามารถนำแสดงผลงานของตัวท่านได้ ซึ่งเนื้อหาจะเป็นไปในทิศทางของเจ้าของเว็บไซต์ สามารถทำเป็นเว็บไซต์ หรือเว็บเพจเพียงหน้าเดียวได้
เว็บไซต์นี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมผลงาน หรือจัดแสดงผลงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพถ่าย หรืองานศิลป์อื่น ๆ ซึ่งเป้าหมายหลักของเว็บไซต์นี้คือ การแสดงผลงานในรูปแบบต่าง ๆ โดยจะมีการแสดงในรูปแบบของแกลอรี่ (Gallery) ที่สามารถแยกหมวดหมู่ให้สะดวกมากขึ้นในการค้นหา รวมไปถึงการเปิดเว็บไซต์เพื่อเป็นตลาดกลางสำหรับการซื้อขายรูปภาพอีกด้วย โดยตัวอย่างมีเว็บไซต์ เช่น Freepik, Flickr, Shutterstock เป็นต้น
เว็บไซต์ประเภทนี้มักไม่ค่อยพบในเว็บไซต์เชิงธุรกิจ แต่มักจะเป็นเว็บไซต์งานส่วนตัวที่ไว้เก็บข้อมูลตัวอย่างผลงานที่เคยทำ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีไว้ใช้ในการสมัครงาน หรือให้ลูกค้ารับชมเป็นหลัก เว็บไซต์ประเภทนี้มักจะพบบ่อยในการแสดงงานศิลป์ต่าง ๆ เช่น งานออกแบบกราฟิก งานเขียน ภาพถ่าย ปั้นโมเดล ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อให้คนที่มารับชมรู้ว่า ผลงานของท่านเป็นอย่างไร มีความสามารถและทักษะด้านใดบ้าง ตัวอย่างเว็บไซต์ เช่น Wix, Behance เป็นต้น
เว็บไซต์ประเภทนี้เป็นแหล่งรวมชุดข้อมูลความรู้อันหลากหลาย จะรวบรวมข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียด รวมไปถึงเนื้อหาเจาะจงที่ให้ข้อมูลในเฉพาะด้านนั้น ๆ โดยส่วนใหญ่เว็บไซต์ประเภทนี้ จะเก็บและรวบรวมข้อมูลมาจากหลายแหล่ง เช่น Wikipedia
เว็บไซต์สำหรับชุมชนออนไลน์เพื่อแบ่งปันความชอบ ความสนใจที่มีในหัวข้อเรื่องเดียวกัน มีการตั้งเป็นกระทู้ถาม-ตอบ ในหลากหลายหัวข้อ ไม่ว่าจะเป็นความสนใจหรือความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ โดยภายใน Online Forum นั้นจะมีการแบ่งแยกย่อยเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ตามความสนใจของแต่ละกลุ่มที่มีการรวมตัวของกลุ่มคน ทำให้การถามตอบนั้นจะได้ข้อมูลและคำตอบที่หลากหลาย ตัวอย่างประเภทเว็บไซต์ เช่น Pantip, Dek-D, Reddit เป็นต้น
เป็นเว็บไซต์ที่ต้องให้ผู้ใช้งานสมัครสมาชิกก่อนถึงจะเข้าไปดูเนื้อหาได้ และบางเว็บไซต์ในการสมัครนั้นก็อาจมีการจ่ายเงินถึงจะสามารถเข้าชมเนื้อหาได้ทั้งหมด เช่น Netflix, Disney+ Hotstar, Prime video, Onlyfans เป็นต้น
หรือเว็บไซต์สำหรับหน่วยงานที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มคน หรือองค์กรที่มีความต้องการช่วยเหลือสังคม ไม่แสวงหาผลกำไร โดยอาจเป็นมูลนิธิ ชมรม สมาคม กองทุนช่วยเหลือ หรือโครงการพิเศษต่าง ๆ ส่วนใหญ่ข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์ประเภทนี้จะเกี่ยวกับการนำเสนอวิสัยทัศน์ พันธกิจ และคุณค่าของหน่วยงาน รวมไปถึงรายละเอียดโครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ และมีการนำเสนอประมวลภาพกิจกรรมในอดีตที่ผ่านมา เช่น UNICEF, มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) เป็นต้น
เว็บไซต์แต่ละประเภทนั้นมีลักษณะที่แตกต่างและโดดเด่นไม่เหมือนกัน โดยการเลือกออกแบบเว็บไซต์ก็ต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์การใช้งานและประเภทของธุรกิจที่ทำอยู่ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ไม่ควรละเลยในเรื่องของเว็บไซต์ ดังนั้น ควรพิจารณาก่อนว่าเว็บไซต์ของท่านนั้นทำขึ้นเพื่ออะไร และกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร จะช่วยให้ท่านวางแผนการออกแบบเว็บไซต์ได้เหมาะสม และทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ในการใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
และถ้าท่านใดที่ต้องการเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์กับธุรกิจของท่านและเป็นมงคล อาจเลือกใช้สีและรูปทรงที่เสริมธาตุตามหลักฮวงจุ้ยจีน ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาจากวันเดือนปีเกิดเจ้าของกิจการ และหุ้นส่วนประกอบ ซึ่งแบ่งเป็น 5 ธาตุได้แก่ ดิน น้ำ ไม้ ทอง ไฟ จะช่วยส่งเสริมธุรกิจ และเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า
✦ ถ้าท่านต้องการออกแบบเว็บไซต์ โดยมีหลักฮวงจุ้ยร่วมประกอบด้วย สามารถติดต่อสอบถามกับทาง อ.ชัญ ได้ที่ Line: @theluckyname โดย อ.ชัญ จะออกแบบเว็บไซต์ โดยเลือกใช้สี รูปร่าง และรูปทรงที่เสริมธาตุตามหลักฮวงจุ้ยจีน โดยพิจารณาจากวันเดือนปีเกิด เจ้าของกิจการ และหุ้นส่วนประกอบ เพื่อเสริมความเป็นมงคลและภาพลักษณ์ให้กับเว็บไซต์
ดูรีวิว จากผู้ใช้บริการจริง ตั้งชื่อลูก ตั้งนามสกุล ตั้งชื่อบริษัท ตั้งชื่อร้าน ออกแบบโลโก้ ดูฤกษ์คลอด ฤกษ์มงคล
อ.ชัญ thelucky ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย – www.theluckyname.com