จักขุมายา เป็นหลักเกณฑ์สำคัญในการวางฤกษ์หลักหนึ่ง ที่บรรดาโหรโบราณนั้นต้องใช้ทำการตรวจฤกษ์นั้นว่าผ่าเกณฑ์หลักจักขุมายาก่อนทำการให้ฤกษ์ไป โดยมีหลักเกณฑ์ในการคำนวณดังนี้ ให้เอาวันที่ต้องการทำการมงคลบวกด้วยฤกษ์ของพระจันทร์วันนั้น แล้วเอา 7 หาร โดยดูผลลัพธ์จากเศษที่ได้ หากคำนวณออกมาแล้วได้เศษ 1,2,3 ให้หลีกเลี่ยงวางฤกษ์ในวันนั้นเพราะเป็นวันที่ไม่ดี
รวิฉัฏโฐ (ทำการวันอาทิตย์ 6)
ทเวจันโท (ทำการวันจันทร์ 2)
ภุมโมปัญจ (ทำการวันอังคาร 5)
พุธ เอโก (ทำการวันพุธ 1)
ชีโวจัตวา (ทำการวันพฤหัส 4)
ศุกร์สูนย์ (ทำการวันศุกร์ 0,7)
เสาร์ ตรีนิ (ทำการวันเสาร์ 3)
โดยตามตำราโบราณจะมีคำพยากรณ์ดังนี้
เศษ 1 เป็นฤกษ์อุบาทว์ จะเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติเงินทอง
เศษ 2 เป็นฤกษ์กาลกิณี จะทำให้ลำบากยากจน พลัดพรากจากลูกเมีย เป็นคนกำพร้าอนาถา
เศษ 3 เป็นฤกษ์มฤตยู เกิดมามักป่วยไข้ และมักจะเป็นคนที่ลำบากตกทุกข์ได้ยาก ลำบากยิ่งนัก
เศษ 4 เป็นฤกษ์สิทธิ เกิดมาจะอยู่เย็นเป็นสุข นานไปก็จะได้เป็นใหญ่ ประกอบด้วยปัญญา และเชี่ยวชาญในด้านศิลปะต่างๆ
เศษ 5 ฤกษ์สวัสดี เกิดมาจะมีผู้ที่รักใคร่เอ็นดูมาก และจะมีชื่อเสียงไกลจนถึงต่างประเทศ ไม่ตกละกำลำบาก อุดมด้วยอาหารบริบูรณ์ จะเป็นนักปราชญ์มหาบัณฑิต เป็นขุนนางผู้ใหญ่แล
เศษ 6 ฤกษ์อมฤตย์ จะเป็นเศรษฐีมีทรัพย์มาก ประกอบไปด้วยอาหารอุดมสมบูรณ์ และผู้คนข้าไทมากสมประสงค์
เศษ 7 ฤกษ์สรรพโยคอำพล เกิดมามีสิ่งศักดิ์สิทธฺคุ้มภัย จะมีพลทหารมีเดชเดชามาก และมีความสุขมากชอบเป็นหมอจึงจะดีแล
จักขุมายานี้เป็นตำราที่สำคัญมาก ก่อนจะกำหนดฤกษ์ทำการมงคลประการใด ก็ให้ตรวจสอบด้วยตำราจักขุมายานี้ก่อน ถ้าเห็นว่าเหมาะสมและผ่านเกณฑ์จักขุมายาด้วยแล้วจึงค่อยลงมือทำ ถึงแม้ฤกษ์ที่ใช้จะเข้าเกณฑ์ร้ายอื่นๆ แต่หากผ่าหลักจักขุมายาแล้วก็สามารถคุ้มครองดวงฤกษ์ให้สามารถประกอบพิธีการได้ ซึ่งโหราจารย์ในสมัยก่อนได้มีการตรวจสอบและเก็บสถิติก็พบว่ามีความแม่นยำอย่างมาก หากใครกำลังสนใจในการหากฤกษ์มงคลอยู่แล้วละก็ อ.ชัญ แนะนำว่า ฤกษ์ที่ดีทุกฤกษ์ที่นำไปใช้ก็ควรผ่าหลักเกณฑ์จักขุมายาด้วยเช่นกันค่ะ