ศาสตร์ที่ใช้ในการตั้งชื่อ

          เมื่อกล่าวถึงการ ตั้งชื่อมงคล ไม่ว่าจะเป็น ตั้งชื่อลูก เปลี่ยนชื่อมงคล  ตั้งนามสกุล ตั้งชื่อบริษัท ตั้งชื่อร้าน ตั้งชื่อกิจการ ตั้งชื่อแบรนด์ ตั้งชื่อสินค้า มักจะใช้หลักวิชาวิชานามลักษณ์ศาสตร์ เป็นศาสตร์ตั้งชื่อที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี เพื่อมุ่งเน้นหานามมงคลให้แก่เจ้าชาตา โดยเชื่อกันว่าชื่อที่เป็นมงคลจะช่วยชักนำสิ่งดี ๆ ส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าทั้งชีวิตครอบครัวและอาชีพการงาน ชื่อเสียงเกียรติยศ รวมทั้งอำนาจบารมีให้เพิ่มพูนขึ้น แต่ถ้าเลือกใช้ชื่อไม่เป็นมงคลหรือไม่ถูกโฉลกกับตนเองอาจส่งผลให้ชีวิตหรือธุรกิจ พบเจอกับอุปสรรคปัญหา ทำสิ่งใดก็ไม่มีความเจริญก้าวหน้า มีแต่ความล้มเหลว ปัญหามากมายที่จะต้องแก้ไข ดังนั้นการ ตั้งชื่อ ที่ดีเป็นสิริมงคลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตอย่างหนึ่่ง

          โดยศาสตร์ที่ อ.ชัญ ใช้พิจารณาเป็นหลักสำคัญในการตั้งชื่อมงคล สำหรับ ตั้งชื่อลูก เปลี่ยนชื่อมงคล  ตั้งชื่อบุคคล นั้นคือ “หลักนวนามศาสตร์” ซึ่งเป็นศาสตร์ประยุกต์จากหลักโหราศาสตร์ไทย หลักนวนามศาสตร์เป็นศาสตร์ประยุกต์ชาตาตามหลักโหรขั้นสูง ที่ได้นำข้อดีของดวงนวางค์จักรในหลักโหราศาสตร์ไทยมาทำการวิเคราะห์คุณภาพดาวในดวงชาตาของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด ซึ่งแต่ละคนก็มีดวงชาตาแตกต่างกันไป แม้กระทั่งคู่แฝดถึงแม้จะเกิดห่างกันเพียงแค่วินาทีเดียวแต่ชาตาชีวิตก็อาจจะต่างกันราวฟ้ากับเหวได้ ถ้าหากนำพลังของดวงดาวที่มีคุณภาพที่ดีมาใช้ตั้งชื่อพลังที่ดีของดาวพระเคราะห์นั้นก็จะส่งผลต่อความคิด และจิตใจ ทำให้บุคคลนั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ การเลือกใช้ค่าพลังของดวงดาวที่ส่งผลดีที่สุดต่อดวงชาตามาตั้งชื่อนั้นถือว่าเป็นหัวใจหลักในการตั้งชื่อนี่จึงเป็นที่มาของหลัก “นวนามศาสตร์” โดยสำหรับศาสตร์ในการตั้งชื่อมงคลมีอยู่หลากหลายแขนงในปัจจุบัน ซึ่งหลักการตั้งชื่ออื่น ๆ อ.ชัญ ก็นำมาใช้พิจารณาร่วมกันทั้งหมด 5 ศาสตร์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ศาสตร์การตั้งชื่อเบื้องต้น ได้แก่ หลักทักษาปกรณ์ หลักเลขศาสตร์ หลักอายตนะ 6 และศาสตร์การตั้งชื่อมงคลชั้นสูงได้แก่ หลักโหราศาสตร์ไทย หลักนวนามศาสตร์