สำหรับข้อแตกต่างของการจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด จะสามารถแบ่งออกได้ 5 ข้อดังนี้
1. จำนวนร่วมลงทุน (จำนวนผู้ถือหุ้น หรือผู้ก่อตั้ง)
ㆍ บริษัทจำกัด : จะต้องมีผู้ร่วมลงทุน หรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 3 คน
ㆍ ห้างหุ้นส่วนจำกัด : จะต้องมีผู้ร่วมลงทุนหรือหุ้นส่วนอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป
2. การลงทุน
ㆍ บริษัทจำกัด : การลงทุนสำหรับการจดทะเบียนบริษัทนั้น จะเป็นลักษณะของ ทุนเรือนหุ้น (Capital stock) โดยที่ผู้ลงทุนจะต้องแบ่งทุนออกเป็นหุ้น แต่ละหุ้นจะต้องมีมูลค่าเท่าๆ กัน(มูลค่าหุ้นจะต้องไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 5 บาท) และจะต้องเป็นการลงหุ้นด้วยเงินเท่านั้น
ㆍ ห้างหุ้นส่วนจำกัด : การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น คุณไม่ต้องแบ่งเป็นทุนเป็น ทุนเรือนหุ้น (Capital stock) เหมือนการจดทะเบียนบริษัทจำกัด และไม่ต้องกังวลเรื่องขั้นต่ำของทุนจดทะเบียนด้วย เพราะการจดห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นไม่ได้มีการกำหนดขั้นต่ำไว้ นั่นหมายความว่า คุณสามารถใช้จำนวนเงินลงหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน ในห้างหุ้นส่วนกันทั้งหมด รวมถึง สามารถลงทุนด้วยเงิน ทรัพย์สินและแรงงาน เป็นทุนจดทะเบียนได้
เพิ่มเติม : การลงหุ้นด้วยแรงงาน จะต้องเป็นการลงทุน ในรูปแบบของหุ้นส่วนผู้จัดการ (หุ้นส่วนจำพวกที่ไม่จำกัดความรับผิด) เท่านั้น หากเป็นหุ้นส่วนที่ต้องการจำกัดความรับผิด จะต้องลงหุ้นด้วยเงินหรือทรัพย์สินเท่านั้น ไม่สามารถลงหุ้นด้วยแรงงานได้
3. ความรับผิดในหนี้สิน
ㆍบริษัทจำกัด : เนื่องจากความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้นมีจำกัด ผู้ถือหุ้นหรือผู้ลงทุนจะรับผิดชอบเฉพาะเงินลงทุนในหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระเท่านั้น
ㆍห้างหุ้นส่วนจำกัด : จะแบ่งความรับผิดชอบออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
3.1 ห้างหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดชอบ (หุ้นส่วนผู้จัดการ) รับผิดชอบไม่จำกัดจำนวน
3.2 ห้างหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบ (หุ้นส่วนทั่วไป) รับผิดชอบเท่าจำนวนหุ้นที่ลงไป
4. ค่าธรรมเนียม
ㆍ บริษัทจำกัด : มีค่าธรรมเนียมในการจัดตั้ง 5,000 บาท
ㆍ ห้างหุ้นส่วนจำกัด : ค่าธรรมเนียมในการจัดตั้ง 1,000 บาท
หมายเหตุ : ค่าธรรมเนียมในการจัดตั้งบริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดข้างต้น ยังไม่รวมค่าอากรแสตมป์และค่ารับรองเอกสาร
5. การประชุมสามัญประจำปี
ㆍ บริษัทจำกัด : จะต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นทุกปี
ㆍ ห้างหุ้นส่วนจำกัด : ไม่ต้องประชุมหุ้นส่วนประจำปี (ก็ได้)
6. การปิดงบประจำปี
ㆍ บริษัทจำกัด : ผู้ที่สามารถเซ็นปิดงบได้ จะต้องเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) เท่านั้น
ㆍ ห้างหุ้นส่วนจำกัด : ผู้ที่สามารถเซ็นปิดงบ จะเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) หรือ ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA) ก็ได้
7. อัตราภาษี
ไม่ว่าคุณจะยื่นจดทะเบียนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด คุณจะต้องจ่ายภาษีในรูปแบบของ อัตราภาษีก้าวหน้า (อัตราภาษีที่จะต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นเมื่อมีฐานภาษีเพิ่มขึ้น)
การจดบริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจของคุณ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วที่ปรึกษาในการจัดตั้งบริษัท มักจะแนะนำให้เจ้าของธุรกิจจดบริษัทมากกว่า ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
คนส่วนใหญ่มักรู้สึกว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดมักจะเป็นการดำเนินธุรกิจแบบครอบครัว และรู้สึกว่าบริษัทจำกัด มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือมากกว่า ดังนั้น หากธุรกิจของคุณต้องติดต่อกับผู้คนจำนวนมาก และต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือและความมืออาชีพให้กับธุรกิจ การจดทะเบียนบริษัทจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คุณมากกว่า
หากคุณเลือกจดทะเบียนบริษัท และธุรกิจของคุณขาดทุนคุณจะต้องรับผิดชอบแค่หุ้นที่คุณลงทนไปเท่านั้น หากเกิดการฟ้องร้องภายหลังทรัพย์สินส่วนตัวของคุณจะไม่ถูกดึงมาข้องเกี่ยวด้วย แต่หากคุณจดห้างหุ้นส่วนจำกัด ความรับผิดชอบของคุณจะขึ้นอยู่กับประเภทการลงทุน ดังนี้
ㆍ หุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดชอบ (หุ้นส่วนผู้จัดการ) : คุณจะต้องรับผิดชอบนอกเหนือจากเงินที่ลงทุนไปด้วย
ㆍ หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบ (หุ้นส่วนทั่วไป): คุณจะต้องรับผิดชอบแค่ในส่วนที่ลงทุนไปเท่านั้น ไม่ต้องรับผิดชอบเกินกว่าที่ลงทุนไป
หลายคนมักจะคิดว่าการจดทะเบียนบริษัทมีความยุ่งยากและต้องใช้เวลามากกว่าการจดห้างหุ้นส่วนจำกัด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัจจุบันการจดทะเบียนบริษัทใช้ระยะเวลาเท่ากับการจดห้างหุ้นส่วนจำกัด คือ 1 วันเท่านั้น
ข้อเปรียบเทียบของการจดทะเบียนบริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดที่พูดมาทั้งหมดอาจจะทำให้ท่านพอจะตัดสินใจได้บ้างว่า ธุรกิจของคุณเหมาะกับการจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดมากกว่า หากใครที่ยังไม่มีชื่อห้างหุ่นส่วนจำกัดหรือชื่อบริษัทในใจก็สามารถใช้บริการตั้งชื่อบริษัทพร้อมทั้งจดตั้งบริษัทแบบครบวงจรจากทาง Theluckyname เพื่อความสะดวกและช่วยเสริมกิจการของท่านให้ราบรื่นและความมั่นคงของธุรกิจในอนาคต
สามารถติดต่อ
FB: https://www.facebook.com/theluckyname
https://theluckyname.com