เมื่อพูดถึงการเลือกบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้า หลายคนอาจสงสัยว่า บรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง และจะเลือกแบบไหนให้เหมาะสมกับสินค้าและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักประเภทของบรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งวัสดุทางเลือกที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ประเภทของบรรจุภัณฑ์ (Packaging) แบ่งตามลักษณะการใช้งาน สามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1. บรรจุภัณฑ์เพื่อการขายปลีก (Primary Packaging)
เป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสกับสินค้าโดยตรง และเป็นส่วนที่ผู้บริโภคมองเห็นหรือหยิบจับได้ ตัวอย่างเช่น ขวดน้ำดื่ม ถุงขนม หลอดยาสีฟัน กล่องนม เป็นต้น บรรจุภัณฑ์เพื่อการขายปลีกมีไว้เพื่อปกป้องสินค้า ดึงดูดความสนใจ และสื่อข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า
2. บรรจุภัณฑ์รอง (Secondary Packaging)
เป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่มาห่อหุ้มบรรจุภัณฑ์หลัก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวสินค้าได้รับความเสียหาย เพื่อความสะดวกในการขนส่งหรือจัดจำหน่าย ตัวอย่างเช่น กล่องกระดาษที่บรรจุขวดน้ำดื่ม 12 ขวด ถุงพลาสติกใส่สินค้า ฟิล์มห่อสินค้าหลายชิ้น เป็นต้น บรรจุภัณฑ์รองมีไว้เพื่อปกป้องสินค้าเมื่ออยู่ในกล่องหรือชั้นวาง ลดความเสียหายระหว่างการจัดส่ง และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้า
3. บรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง (Tertiary Packaging)
เป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อการจัดส่งสินค้าในปริมาณมาก ตัวอย่างเช่น ลังไม้ กล่องกระดาษลูกฟูกขนาดใหญ่ พาเลทที่ใช้วางกล่องสินค้า เป็นต้น บรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งมีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า และป้องกันสินค้าจากความเสียหายระหว่างการขนส่ง
4. บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly Packaging)
เป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ง่าย ตัวอย่างเช่น กล่องกระดาษรีไซเคิล ถุงกระดาษแทนพลาสติก บรรจุภัณฑ์ทำจากเยื่อไผ่ เป็นต้น บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมมีไว้เพื่อลดปริมาณขยะและสนับสนุนความยั่งยืน
5. บรรจุภัณฑ์เพื่อการป้องกัน (Protective Packaging)
เป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันสินค้าในกรณีที่ต้องจัดส่งสินค้าที่เปราะบาง ตัวอย่างเช่น บับเบิ้ลกันกระแทก กล่องโฟม เป็นต้น
ดังนั้นประเภทของบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญในระบบการขายและการขนส่ง โดยการเลือกใช้จะขึ้นอยู่กับลักษณะสินค้า วัตถุประสงค์ และกลุ่มเป้าหมายของผู้บริโภค
ประเภทของบรรจุภัณฑ์ : วัสดุที่นิยมใช้
บรรจุภัณฑ์ถือเป็นส่วนสำคัญในการจัดเก็บสินค้า ช่วยเพิ่มความสะดวกในการขนส่ง ป้องกันความเสียหาย และยังช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค หลายคนอาจสงสัยว่า บรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง หากพิจารณาจากวัสดุที่ใช้ผลิต สามารถแบ่งประเภทของบรรจุภัณฑ์ได้ดังนี้
1. บรรจุภัณฑ์พลาสติก (Plastic Packaging)
เป็นวัสดุประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์หลากหลาย เช่น น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อความชื้น และสามารถป้องกันสินค้าได้ดี อีกทั้งยังผลิตได้ในต้นทุนที่ต่ำ จึงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็น ถุงพลาสติก กล่องพลาสติก หรือ ขวดน้ำดื่ม
2. บรรจุภัณฑ์กระดาษ (Paper Packaging)
เป็นวัสดุประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากกระดาษสามารถย่อยสลายได้ง่ายและรีไซเคิลได้ ได้แก่ ถุงกระดาษ กล่องกระดาษ แก้วกระดาษ และ ซองกระดาษ เหมาะสำหรับสินค้าประเภทเบเกอรี่ อาหารจานด่วน และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ซึ่งยังตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
3. บรรจุภัณฑ์แก้ว (Glass Packaging)
เป็นวัสดุประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราและสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ทันที แก้วเป็นวัสดุที่ไม่ดูดซับกลิ่นหรือรสชาติ ทำให้สินค้าภายในคงคุณภาพดี เช่น น้ำหอม เครื่องดื่มพรีเมียม หรือผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเครื่องปรุง
4. บรรจุภัณฑ์โลหะ (Metal Packaging)
เป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่มักใช้ในสินค้าที่ต้องการความแข็งแรงและคงทน เช่น กระป๋องเครื่องดื่ม กระป๋องอาหาร หรือ กล่องเหล็ก สามารถป้องกันความชื้น อากาศ และแสงได้ดี ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาสินค้า จึงเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับสินค้าบริโภคที่ต้องการการปกป้องสูง เช่น นมข้นหวาน ปลากระป๋อง
5. บรรจุภัณฑ์ไม้และวัสดุธรรมชาติ (Wood and Natural Packaging)
เป็นประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นไม้ และวัสดุธรรมชาติอย่างเช่นใบตองหรือหวาย มักใช้สำหรับสินค้าเกษตรกรรมหรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงแต่ดูเรียบง่ายและทรงคุณค่า แต่ยังช่วยสร้างความโดดเด่นในตลาด ตัวอย่างของบรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ เช่น กล่องไม้ ตะกร้าหวาย กระทงใบตองใส่อาหาร เป็นต้น
วัสดุทางเลือกสำหรับบรรจุภัณฑ์: แนวโน้มใหม่ที่น่าสนใจ
ในยุคที่ผู้บริโภคตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การเลือกใช้วัสดุทางเลือกสำหรับบรรจุภัณฑ์กลายเป็นประเด็นสำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เน้นความยั่งยืนและรักษ์โลก คำถามว่า บรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง จึงได้รับคำตอบใหม่ ๆ จากวัสดุที่สามารถช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติได้ วัสดุเหล่านี้ไม่เพียงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับแบรนด์อีกด้วย ตัวอย่างของวัสดุทางเลือกที่น่าสนใจ มีดังนี้
1. บรรจุภัณฑ์จากวัสดุชีวภาพ (Biodegradable Packaging)
เป็นคำตอบที่ทันสมัยสำหรับคำถามที่ว่าบรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง ในแง่ที่ช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ผลิตจากวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้เองในธรรมชาติ เช่น เยื่อไผ่ ซึ่งเมื่อใช้งานเสร็จแล้วสามารถนำไปทิ้งในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม และจะแตกตัวกลายเป็นสารอินทรีย์ที่ไม่ทำลายธรรมชาติ วัสดุชีวภาพนี้เหมาะสำหรับบรรจุอาหาร เช่น กล่องใส่อาหาร กล่องเบเกอรี่ หรือจานชามแบบใช้แล้วทิ้ง โดยมีข้อดี คือ ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค
2. บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล (Recycled Packaging)
ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่และช่วยประหยัดพลังงานในการผลิต ประเภทของบรรจุภัณฑ์นี้ผลิตจากวัสดุที่เคยใช้งานแล้ว เช่น ขวดพลาสติกเก่า กระดาษรีไซเคิล หรืออะลูมิเนียมรีไซเคิล เพื่อลดขยะและนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ เช่น ถุงกระดาษรีไซเคิล กล่องกระดาษที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ หรือขวดน้ำดื่มที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะในสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งเสริมการลดต้นทุนและตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
3. บรรจุภัณฑ์จากวัสดุที่ใช้ซ้ำได้ (Reusable Packaging)
หากมองในแง่ของการลดขยะ ประเภทของบรรจุภัณฑ์จากวัสดุที่ใช้ซ้ำได้ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง เช่น ขวดแก้ว กล่องสแตนเลส หรือถุงผ้า เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดขยะ ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟที่สนับสนุนให้ลูกค้านำแก้วของตัวเองมาใส่เครื่องดื่ม หรือร้านค้าปลีกที่ให้นำถุงผ้ามาใส่สินค้าที่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีกหลายครั้ง
แนวโน้มการใช้วัสดุทางเลือกสำหรับบรรจุภัณฑ์ในอนาคต
การเปลี่ยนไปใช้วัสดุทางเลือกสำหรับบรรจุภัณฑ์ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน ธุรกิจที่สามารถนำวัสดุเหล่านี้มาใช้ได้อย่างเหมาะสมจะได้รับประโยชน์ในแง่ของความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจจากลูกค้า และการลดต้นทุนระยะยาว ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาคำตอบว่า บรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง วัสดุทางเลือกเหล่านี้คือสิ่งที่ควรจับตามองเพื่อตอบสนองตลาดยุคใหม่ที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า: ควรพิจารณาอะไรบ้าง?
เมื่อเข้าใจแล้วว่า บรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมควรพิจารณาปัจจัยดังนี้
- ประเภทสินค้า เช่น อาหารสดควรใช้ประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันการซึมผ่านของอากาศ
- ภาพลักษณ์แบรนด์ หากต้องการเน้นความหรูหรา ควรเลือกแก้วหรือวัสดุที่ดูพรีเมียม
- ความยั่งยืน หากต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ควรเลือกวัสดุทางเลือก เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารจากเยื่อไผ่ธรรมชาติ
ดังนั้นการเลือกประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมเริ่มต้นจากการเข้าใจว่า บรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง และพิจารณาความต้องการของสินค้าและผู้บริโภค บรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่เพียงช่วยปกป้องสินค้า แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ของคุณอีกด้วย อย่าลืมมองหาวัสดุทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านฟังก์ชันและความยั่งยืน เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าของคุณในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน
ตัวอย่างบรรจุภัณฑ์ / แพคเกจจิ้งฮวงจุ้ย
•─────✦❅✦─────•
✦ สนใจบริการ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ กับอ.ชัญ Thelucky ✦
✦ ถ้าท่านกำลังมองหาชื่อแบรนด์มงคล โลโก้แบรนด์ หรือบรรจุภัณฑ์ สามารถติดต่อสอบถามกับทาง อ.ชัญ ได้ที่ Line: @theluckyname โดย อ.ชัญ จะตั้งชื่อแบรนด์ผ่านการวิเคราะห์หลักเลขศาสตร์ ซึ่งจะได้ชื่อแบรนด์ที่เป็นมงคล ไม่ซ้ำใคร ในส่วนของโลโก้และบรรจุภัณฑ์ (Packaging) จะเลือกใช้สีที่เสริมธาตุตามหลักฮวงจุ้ยจีน โดยพิจารณาจากวันเดือนปีเกิด เจ้าของกิจการ และหุ้นส่วนประกอบ เพื่อเสริมความเป็นมงคลให้กับทางแบรนด์ และเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ด้วยค่ะ
ดูรีวิว จากผู้ใช้บริการจริง ตั้งชื่อลูก ตั้งนามสกุล ตั้งชื่อบริษัท ตั้งชื่อร้าน ออกแบบโลโก้ ดูฤกษ์คลอด ฤกษ์มงคล
ติดต่อเรา
สำนักงานใหญ่ 208 / 43 ม.1 ต.มะขามเตี้ย ถนนวัดโพธิ์ - บางใหญ่ อำเภอเมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
โทรศัพท์ : 099-354-1542
© Copyright 2023. สงวนลิขสิทธิ์โดย บริษัท เมก้า ลักกี้ จำกัด
สำนักงานใหญ่ 208 / 43 ม.1 ต.มะขามเตี้ย ถนนวัดโพธิ์ - บางใหญ่ อำเภอเมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0845562002097
สำนักงานใหญ่ 208 / 43 ม.1 ต.มะขามเตี้ย ถนนวัดโพธิ์ - บางใหญ่ อำเภอเมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84000
เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0845562002097